เลือกดาวน์โหลด... ซ้ายมือสำหรับทำรูปแบบหนังสือ ขวามือสำหรับรูปแบบมือถือหรือแผ่นใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ
Choose a download... left for booklet, right for digital or other use.
ภาษาไทย
หลักคำสอนพระตรีเอกานุภาพ
The doctrine of the Trinity
The doctrine of the Trinity
อีกเนชัส ค.ศ. 30-107
เพราะฉะนั้นมีพระเจ้าผู้เดียวซึ่งไม่มีต้นกำเนิดคือพระเจ้าพระบิดา และมีพระบุตรองค์เดียว พระเจ้า พระวาทะ และพระบุตรมนุษย์ และมีพระองค์ผู้ปลอบประโลมใจองค์เดียว คือ พระวิญญาณแห่งความจริง และมีคำเทศนาอันเดียวกัน มีความเชื่อเดียวอันเดียวกัน และมีปฏิสมาเดียวอัน เดียวกัน (จดหมายของ อีกเนชัส ถึงชาวฟิลิเดลเฟีย บทที่ 4)
หลักข้อเชื่อเวสต์มินสเตอร์
คำถามที่ 6- พระเจ้าประกอบด้วยกี่บุคคลภาพ
คำตอบ- พระเจ้าประกอบด้วยกี่บุคคลภาพตอบ พระเจ้าประกอบด้วยสาม บุคคลภาพ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามนี้เป็น พระเจ้าองค์ เดียวกัน เสมอกัน ในฤทธานุภาพและสงูาราศี
พระตรีเอกานุภาพ ตีความในพระคัมภีร์:
เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ -มัทธิว 3:16
แต่ถ้าเรา [พระเยซู] ขับผีออกโดยพระวิญญาณของพระเจ้า แผ่นดินของพระเจ้าก็มาถึงพวกท่านแล้ว -มัทธิว 12:28
เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
มัทธิว 28:19
และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงรูปสัณฐานเหมือนนกพิราบเสด็จลงมาอยู่กับพระองค์ [พระเยซู] และมีพระสุรเสียงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา [ของ พระบิดา] เราชอบใจท่านมาก” -ลูกา 3:22
แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้น [พระเยซู] จะทรงสอนพวกท่านทุกสิ่ง และจะทำให้ระลึกถึงทุกสิ่งที่เรากล่าวกับท่านแล้ว -ยอห์น 14:26
แต่เมื่อองค์ผู้ช่วยเสด็จมา ซึ่งเป็นผู้ที่เรา [พระเยซู] จะใช้จากพระบิดามาหาพวกท่าน คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งมาจากพระบิดานั้น พระองค์จะทรงเป็นพยานให้เรา -ยอห์น 15:26
ขณะพระองค์ทรงพำนักอยู่กับพวกอัครทูต [พระเยซู] ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา” ซึ่งพวกท่านได้ยินจากเรา -กิจการ 1:4
เพราะฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้าแล้ว และเมื่อพระองค์ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญาแล้ว พระองค์ [พระเยซู] ทรงเทลงมาดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินและได้เห็น -กิจการ 2:33
คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ -กิจการ 10:38
แต่ฝ่ายจิตวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์นั้นทรงปรากฏ ด้วยฤทธานุภาพว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า โดยการเป็นขึ้นมาจากความตาย คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา -โรม 1:4
ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่านแล้ว ท่านก็ไม่อยู่ในเนื้อหนัง แต่อยู่ในพระวิญญาณ ใครไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ คนนั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ -โรม 8:9
มีบางคนในพวกท่านเคยเป็นอย่างนี้ แต่ท่านทั้งหลายได้รับการล้างชำระแล้ว ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว และได้รับการชำระให้ชอบธรรมแล้วโดยพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและโดยพระวิญญาณแห่งพระเจ้าของเรา -1 โครินธ์ 6:11
ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักของพระเจ้า และการมีส่วนกันที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด -2 โครินธ์ 13:13
ทั้งอันนาสมหาปุโรหิตและคายาฟาส รวมทั้งยอห์นและอเล็กซานเดอร์กับคนอื่นๆ ที่เป็นญาติของมหาปุโรหิตด้วย -กิจการ 4:6
ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอพระเจ้าของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราคือพระบิดาผู้ทรงพระสิริทรงให้ท่านทั้งหลายมีจิตใจ ที่ประกอบด้วยปัญญาและการสำแดง เพื่อท่านจะรู้จักพระองค์ -เอเฟซัส 1:17
เพราะว่าโดยทางพระคริสต์เราทั้งสองฝ่ายมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน -เอเฟซัส 2:18
และในพระองค์นั้น [พระเยซู] พวกท่านก็กำลังถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ -เอเฟซัส 2:22
พระวิญญาณองค์นี้แหละที่พระเจ้าประทานให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -ทิตัส 3:6
มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ -ฮีบรู 9:14
ตามที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ล่วงหน้า และพระวิญญาณทรงทำให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเชื่อฟังพระเยซูคริสต์ และได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ ขอพระคุณและสันติสุขจงเพิ่มพูนแก่ท่านทั้งหลายยิ่งขึ้นเถิด -1 เปโตร 1:2
ความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์:
เพราะว่าความเป็นพระเจ้าที่ครบบริบูรณ์ทั้งสิ้นดำรงอยู่ในพระกายของพระองค์ -โคโลสี 2:9
*แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เรา (ในภาษาฮิบรูคือมากกว่า 1) สร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” ปฐมกาล 1:26
เพราะฉะนั้น องค์เจ้านายจะประทานหมายสำคัญด้วยพระองค์เอง นี่แน่ะ หญิงสาว คนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และคนจะเรียกนามของเขาว่า อิมมานูเอล עִמָּנוּאֵל หมายความว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเรา -อิสยาห์ 7:14
ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช” -อิสยาห์ 9:6
“ที่สุดปลายแผ่นดินโลกทุกแห่ง จงหันมาหาเรา และรับความรอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่น เราปฏิญาณโดยตัวเราเอง จากปากชอบธรรมของเรา ถ้อยคำได้ออกไป และจะไม่หวนกลับมา ว่า ‘ทุกเข่าจะกราบลงต่อเรา และทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา’ -อิสยาห์ 45:22-23
“ทำไมคนนี้พูดอย่างนี้ หมิ่นประมาทพระเจ้านี่ ใครจะอภัยบาปได้นอกจากพระเจ้าองค์เดียว” -มาระโก 2:7
ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ -ยอห์น 1:1-3
พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง -ยอห์น 1:14
ไม่มีใครเคยขึ้นไปสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ คือบุตรมนุษย์ -ยอห์น 3:13
พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ก่อนอับราฮัมเกิด เราเป็นอยู่แล้ว” -ยอห์น 8:58
เขาจึงทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์วางใจ” แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์ -ยอห์น 9:38
เรากับพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” พวกยิวจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาอีกจะขว้างพระองค์ให้ตาย พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “เราแสดงให้ท่านเห็นการดีหลายอย่างของพระบิดา พวกท่านหยิบก้อนหินจะขว้างเราให้ตายเพราะการดีข้อไหน?” พวกยิวทูลตอบพระองค์ว่า “เราจะขว้างท่านไม่ใช่เพราะการดีใดๆ แต่เพราะการพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า เพราะท่านเป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า” -ยอห์น 10:30-33
แต่ถ้าเราปฏิบัติพระราชกิจนั้น แม้ว่าท่านไม่วางใจในเรา ก็จงวางใจในพระราชกิจเหล่านั้นเถิด เพื่อท่านจะได้รู้และเข้าใจว่าพระบิดาทรงอยู่ในเราและเราอยู่ในพระบิดา” -ยอห์น 10:38
บัดนี้ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดให้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติต่อพระพักตร์ของพระองค์ คือเกียรติที่ข้าพระองค์มีร่วมกับพระองค์ก่อนที่โลกนี้มีมา -ยอห์น 17:5
โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์” -ยอห์น 20:28
ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่านแล้ว ท่านก็ไม่อยู่ในเนื้อหนัง แต่อยู่ในพระวิญญาณ ใครไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ คนนั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ -โรม 8:9
ทั้งอัครปิตาก็เป็นของพวกเขาด้วย และพระคริสต์ก็มาจากเขาทางเนื้อหนัง คือพระองค์ผู้ทรงรับการสรรเสริญว่าเป็นพระเจ้าเหนือสารพัดเป็นนิตย์ -โรม 9:5
แต่ตัวท่านเล่า ทำไมจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน? หรือท่านผู้เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ทำไมท่านจึงดูหมิ่นพี่น้องของท่าน? เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า ‘เรามีชีวิตอยู่ตราบใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญ พระเจ้า’ ” -โรม 14:10-11
ไม่มีอำนาจครอบครองใดๆ ในยุคนี้รู้จักพระปัญญานี้ เพราะว่าถ้ารู้จักแล้ว จะไม่เอาองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริตรึงกางเขน -1 โครินธ์ 2:8
ผู้ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้ แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมตัวลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้นสูงสุด และประทานพระนามเหนือนามทั้งหมดแก่พระองค์ เพื่อที่ว่าเพราะพระนามของพระเยซูนั้น ทุกชีวิต ในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงกราบพระองค์ -ฟีลิปปี 2:6-10
พระคริสต์ ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้าผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา ทรงเป็นบุตรหัวปีเหนือทุกสิ่งที่ทรงสร้าง เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนทุกสิ่ง และทุกสิ่งถูกยึดเข้าด้วยกันโดยพระองค์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของกายคือคริสตจักร พระองค์ทรงเป็นปฐม ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย เพื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง -โคโลสี 1:15-18
เราต้องยอมรับว่าความล้ำลึกแห่งความเชื่อของเรานั้นยิ่งใหญ่มาก คือว่า พระองค์ ทรงปรากฏเป็นมนุษย์ ทรงได้รับการพิสูจน์ว่าชอบธรรมโดยพระวิญญาณ ทรงปรากฏต่อเหล่าทูตสวรรค์ ทรงได้รับการประกาศออกไปยังบรรดาประชาชาติ ทรงได้รับการเชื่อวางใจจากคนมากมายในโลก และทรงถูกรับขึ้นไปด้วยพระสิริ -1 ทิโมธี 3:16
ในขณะที่เรากำลังรอคอยความหวังอันน่ายินดี และการมาปรากฏของพระสิริของพระเจ้ายิ่งใหญ่คือ พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -ทิตัส 2:13
และอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระองค์ทรงนำพระบุตรหัวปีนั้นเข้ามาในโลก ก็ตรัสว่า “ให้ทูตสวรรค์ทั้งหมดของพระเจ้ากราบนมัสการพระบุตร” ส่วนพวกทูตสวรรค์นั้น พระองค์ตรัสว่า “พระองค์ทรงสร้างพวกทูตสวรรค์ของพระองค์ให้เป็นดุจลม และทรงสร้างบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้เป็นดุจเปลวเพลิง” แต่ส่วนพระบุตรนั้น พระองค์ตรัสว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ พระคทาแห่งอาณาจักรของพระองค์ก็เป็นพระคทาเที่ยงธรรม -ฮีบรู 1:6-8
พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์ -ฮีบรู 13:8
สิเมโอน เปโตร ผู้รับใช้และอัครทูตของพระเยซูคริสต์ เรียน บรรดาผู้ที่ได้รับความเชื่ออันล้ำค่าเช่นเดียวกับเรา โดยความชอบธรรมแห่งพระเจ้าของเราทั้งหลายคือพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -2 เปโตร 1:1
คนที่มีพระบุตรก็มีชีวิต คนที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต -1 ยอห์น 5:12
และเรารู้ว่าพระบุตรของพระเจ้าเสด็จมาแล้ว และประทานสติปัญญาแก่เรา เพื่อให้เรารู้จักพระองค์ผู้ทรงสัตย์จริง และเราอยู่ในพระองค์นั้นโดยอยู่ในพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ พระองค์นี่แหละเป็นพระเจ้าแท้และเป็นชีวิตนิรันดร์ -1 ยอห์น 5:20
พระเจ้าผู้ทรงเป็นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ที่จะเสด็จมา และผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ตรัสว่า “เราเป็นอัลฟา และโอเมกา ” -วิวรณ์ 1:8
และสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “อาเมน” และบรรดาผู้อาวุโสก็ทรุดตัวลงและนมัสการ วิวรณ์ 5:14
มนุษย์เป็น 3 ตามพระชายาของพระเจ้า พระเจ้าเป็น 3 บุคคลและเป็นพระเจ้าผู้เดียว ในแบบที่ใกล้เคียงกัน มนุษย์เป็น 3 บุคคลในคนคนเดียว คือร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณ แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เรา [หรือพวกเรา คือความหมายในภาษาฮีบรู คือพูดถึงพระตรีเอกานุภาพ] สร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” -ปฐมกาล 1:26
ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านทั้งหลายให้เป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา 1 เธสะโล. 5:23
เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย -ฮีบรู 4:12
สรุป:
ผมเชื่อว่าแนวคิดพระตรีเอกภาพไม่ได้พูดถึงในพระคัมภีร์ด้วยตรง เพราะฉะนั้นเราควรจะเน้นความเป็นหนึ่งของพระเจ้า แต่ในขณะเดียวกันเราควรจะเร็วในการยืนยันว่า พระเจ้าประกอบด้วยสามบุคคลภาพ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามนี้เป็นพระเจ้าองค์ เดียวกัน เสมอกัน ในฤทธานุภาพและสงูาราศี
เพราะฉะนั้นมีพระเจ้าผู้เดียวซึ่งไม่มีต้นกำเนิดคือพระเจ้าพระบิดา และมีพระบุตรองค์เดียว พระเจ้า พระวาทะ และพระบุตรมนุษย์ และมีพระองค์ผู้ปลอบประโลมใจองค์เดียว คือ พระวิญญาณแห่งความจริง และมีคำเทศนาอันเดียวกัน มีความเชื่อเดียวอันเดียวกัน และมีปฏิสมาเดียวอัน เดียวกัน (จดหมายของ อีกเนชัส ถึงชาวฟิลิเดลเฟีย บทที่ 4)
หลักข้อเชื่อเวสต์มินสเตอร์
คำถามที่ 6- พระเจ้าประกอบด้วยกี่บุคคลภาพ
คำตอบ- พระเจ้าประกอบด้วยกี่บุคคลภาพตอบ พระเจ้าประกอบด้วยสาม บุคคลภาพ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามนี้เป็น พระเจ้าองค์ เดียวกัน เสมอกัน ในฤทธานุภาพและสงูาราศี
พระตรีเอกานุภาพ ตีความในพระคัมภีร์:
เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ -มัทธิว 3:16
แต่ถ้าเรา [พระเยซู] ขับผีออกโดยพระวิญญาณของพระเจ้า แผ่นดินของพระเจ้าก็มาถึงพวกท่านแล้ว -มัทธิว 12:28
เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
มัทธิว 28:19
และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงรูปสัณฐานเหมือนนกพิราบเสด็จลงมาอยู่กับพระองค์ [พระเยซู] และมีพระสุรเสียงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา [ของ พระบิดา] เราชอบใจท่านมาก” -ลูกา 3:22
แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้น [พระเยซู] จะทรงสอนพวกท่านทุกสิ่ง และจะทำให้ระลึกถึงทุกสิ่งที่เรากล่าวกับท่านแล้ว -ยอห์น 14:26
แต่เมื่อองค์ผู้ช่วยเสด็จมา ซึ่งเป็นผู้ที่เรา [พระเยซู] จะใช้จากพระบิดามาหาพวกท่าน คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งมาจากพระบิดานั้น พระองค์จะทรงเป็นพยานให้เรา -ยอห์น 15:26
ขณะพระองค์ทรงพำนักอยู่กับพวกอัครทูต [พระเยซู] ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา” ซึ่งพวกท่านได้ยินจากเรา -กิจการ 1:4
เพราะฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้าแล้ว และเมื่อพระองค์ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญาแล้ว พระองค์ [พระเยซู] ทรงเทลงมาดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินและได้เห็น -กิจการ 2:33
คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ -กิจการ 10:38
แต่ฝ่ายจิตวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์นั้นทรงปรากฏ ด้วยฤทธานุภาพว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า โดยการเป็นขึ้นมาจากความตาย คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา -โรม 1:4
ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่านแล้ว ท่านก็ไม่อยู่ในเนื้อหนัง แต่อยู่ในพระวิญญาณ ใครไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ คนนั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ -โรม 8:9
มีบางคนในพวกท่านเคยเป็นอย่างนี้ แต่ท่านทั้งหลายได้รับการล้างชำระแล้ว ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว และได้รับการชำระให้ชอบธรรมแล้วโดยพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและโดยพระวิญญาณแห่งพระเจ้าของเรา -1 โครินธ์ 6:11
ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักของพระเจ้า และการมีส่วนกันที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด -2 โครินธ์ 13:13
ทั้งอันนาสมหาปุโรหิตและคายาฟาส รวมทั้งยอห์นและอเล็กซานเดอร์กับคนอื่นๆ ที่เป็นญาติของมหาปุโรหิตด้วย -กิจการ 4:6
ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอพระเจ้าของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราคือพระบิดาผู้ทรงพระสิริทรงให้ท่านทั้งหลายมีจิตใจ ที่ประกอบด้วยปัญญาและการสำแดง เพื่อท่านจะรู้จักพระองค์ -เอเฟซัส 1:17
เพราะว่าโดยทางพระคริสต์เราทั้งสองฝ่ายมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน -เอเฟซัส 2:18
และในพระองค์นั้น [พระเยซู] พวกท่านก็กำลังถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ -เอเฟซัส 2:22
พระวิญญาณองค์นี้แหละที่พระเจ้าประทานให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -ทิตัส 3:6
มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ -ฮีบรู 9:14
ตามที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ล่วงหน้า และพระวิญญาณทรงทำให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเชื่อฟังพระเยซูคริสต์ และได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ ขอพระคุณและสันติสุขจงเพิ่มพูนแก่ท่านทั้งหลายยิ่งขึ้นเถิด -1 เปโตร 1:2
ความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์:
เพราะว่าความเป็นพระเจ้าที่ครบบริบูรณ์ทั้งสิ้นดำรงอยู่ในพระกายของพระองค์ -โคโลสี 2:9
*แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เรา (ในภาษาฮิบรูคือมากกว่า 1) สร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” ปฐมกาล 1:26
เพราะฉะนั้น องค์เจ้านายจะประทานหมายสำคัญด้วยพระองค์เอง นี่แน่ะ หญิงสาว คนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และคนจะเรียกนามของเขาว่า อิมมานูเอล עִמָּנוּאֵל หมายความว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเรา -อิสยาห์ 7:14
ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า “ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช” -อิสยาห์ 9:6
“ที่สุดปลายแผ่นดินโลกทุกแห่ง จงหันมาหาเรา และรับความรอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่น เราปฏิญาณโดยตัวเราเอง จากปากชอบธรรมของเรา ถ้อยคำได้ออกไป และจะไม่หวนกลับมา ว่า ‘ทุกเข่าจะกราบลงต่อเรา และทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา’ -อิสยาห์ 45:22-23
“ทำไมคนนี้พูดอย่างนี้ หมิ่นประมาทพระเจ้านี่ ใครจะอภัยบาปได้นอกจากพระเจ้าองค์เดียว” -มาระโก 2:7
ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ -ยอห์น 1:1-3
พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง -ยอห์น 1:14
ไม่มีใครเคยขึ้นไปสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ คือบุตรมนุษย์ -ยอห์น 3:13
พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ก่อนอับราฮัมเกิด เราเป็นอยู่แล้ว” -ยอห์น 8:58
เขาจึงทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์วางใจ” แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์ -ยอห์น 9:38
เรากับพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” พวกยิวจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาอีกจะขว้างพระองค์ให้ตาย พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “เราแสดงให้ท่านเห็นการดีหลายอย่างของพระบิดา พวกท่านหยิบก้อนหินจะขว้างเราให้ตายเพราะการดีข้อไหน?” พวกยิวทูลตอบพระองค์ว่า “เราจะขว้างท่านไม่ใช่เพราะการดีใดๆ แต่เพราะการพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า เพราะท่านเป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า” -ยอห์น 10:30-33
แต่ถ้าเราปฏิบัติพระราชกิจนั้น แม้ว่าท่านไม่วางใจในเรา ก็จงวางใจในพระราชกิจเหล่านั้นเถิด เพื่อท่านจะได้รู้และเข้าใจว่าพระบิดาทรงอยู่ในเราและเราอยู่ในพระบิดา” -ยอห์น 10:38
บัดนี้ข้าแต่พระบิดา ขอโปรดให้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติต่อพระพักตร์ของพระองค์ คือเกียรติที่ข้าพระองค์มีร่วมกับพระองค์ก่อนที่โลกนี้มีมา -ยอห์น 17:5
โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์” -ยอห์น 20:28
ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่านแล้ว ท่านก็ไม่อยู่ในเนื้อหนัง แต่อยู่ในพระวิญญาณ ใครไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ คนนั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ -โรม 8:9
ทั้งอัครปิตาก็เป็นของพวกเขาด้วย และพระคริสต์ก็มาจากเขาทางเนื้อหนัง คือพระองค์ผู้ทรงรับการสรรเสริญว่าเป็นพระเจ้าเหนือสารพัดเป็นนิตย์ -โรม 9:5
แต่ตัวท่านเล่า ทำไมจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน? หรือท่านผู้เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ทำไมท่านจึงดูหมิ่นพี่น้องของท่าน? เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า ‘เรามีชีวิตอยู่ตราบใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญ พระเจ้า’ ” -โรม 14:10-11
ไม่มีอำนาจครอบครองใดๆ ในยุคนี้รู้จักพระปัญญานี้ เพราะว่าถ้ารู้จักแล้ว จะไม่เอาองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริตรึงกางเขน -1 โครินธ์ 2:8
ผู้ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้ แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมตัวลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้นสูงสุด และประทานพระนามเหนือนามทั้งหมดแก่พระองค์ เพื่อที่ว่าเพราะพระนามของพระเยซูนั้น ทุกชีวิต ในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงกราบพระองค์ -ฟีลิปปี 2:6-10
พระคริสต์ ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้าผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา ทรงเป็นบุตรหัวปีเหนือทุกสิ่งที่ทรงสร้าง เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนทุกสิ่ง และทุกสิ่งถูกยึดเข้าด้วยกันโดยพระองค์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของกายคือคริสตจักร พระองค์ทรงเป็นปฐม ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย เพื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง -โคโลสี 1:15-18
เราต้องยอมรับว่าความล้ำลึกแห่งความเชื่อของเรานั้นยิ่งใหญ่มาก คือว่า พระองค์ ทรงปรากฏเป็นมนุษย์ ทรงได้รับการพิสูจน์ว่าชอบธรรมโดยพระวิญญาณ ทรงปรากฏต่อเหล่าทูตสวรรค์ ทรงได้รับการประกาศออกไปยังบรรดาประชาชาติ ทรงได้รับการเชื่อวางใจจากคนมากมายในโลก และทรงถูกรับขึ้นไปด้วยพระสิริ -1 ทิโมธี 3:16
ในขณะที่เรากำลังรอคอยความหวังอันน่ายินดี และการมาปรากฏของพระสิริของพระเจ้ายิ่งใหญ่คือ พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -ทิตัส 2:13
และอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระองค์ทรงนำพระบุตรหัวปีนั้นเข้ามาในโลก ก็ตรัสว่า “ให้ทูตสวรรค์ทั้งหมดของพระเจ้ากราบนมัสการพระบุตร” ส่วนพวกทูตสวรรค์นั้น พระองค์ตรัสว่า “พระองค์ทรงสร้างพวกทูตสวรรค์ของพระองค์ให้เป็นดุจลม และทรงสร้างบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้เป็นดุจเปลวเพลิง” แต่ส่วนพระบุตรนั้น พระองค์ตรัสว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระที่นั่งของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ พระคทาแห่งอาณาจักรของพระองค์ก็เป็นพระคทาเที่ยงธรรม -ฮีบรู 1:6-8
พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์ -ฮีบรู 13:8
สิเมโอน เปโตร ผู้รับใช้และอัครทูตของพระเยซูคริสต์ เรียน บรรดาผู้ที่ได้รับความเชื่ออันล้ำค่าเช่นเดียวกับเรา โดยความชอบธรรมแห่งพระเจ้าของเราทั้งหลายคือพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา -2 เปโตร 1:1
คนที่มีพระบุตรก็มีชีวิต คนที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต -1 ยอห์น 5:12
และเรารู้ว่าพระบุตรของพระเจ้าเสด็จมาแล้ว และประทานสติปัญญาแก่เรา เพื่อให้เรารู้จักพระองค์ผู้ทรงสัตย์จริง และเราอยู่ในพระองค์นั้นโดยอยู่ในพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ พระองค์นี่แหละเป็นพระเจ้าแท้และเป็นชีวิตนิรันดร์ -1 ยอห์น 5:20
พระเจ้าผู้ทรงเป็นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็นอยู่ ผู้ที่จะเสด็จมา และผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ตรัสว่า “เราเป็นอัลฟา และโอเมกา ” -วิวรณ์ 1:8
และสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “อาเมน” และบรรดาผู้อาวุโสก็ทรุดตัวลงและนมัสการ วิวรณ์ 5:14
มนุษย์เป็น 3 ตามพระชายาของพระเจ้า พระเจ้าเป็น 3 บุคคลและเป็นพระเจ้าผู้เดียว ในแบบที่ใกล้เคียงกัน มนุษย์เป็น 3 บุคคลในคนคนเดียว คือร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณ แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เรา [หรือพวกเรา คือความหมายในภาษาฮีบรู คือพูดถึงพระตรีเอกานุภาพ] สร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” -ปฐมกาล 1:26
ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านทั้งหลายให้เป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา 1 เธสะโล. 5:23
เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย -ฮีบรู 4:12
สรุป:
ผมเชื่อว่าแนวคิดพระตรีเอกภาพไม่ได้พูดถึงในพระคัมภีร์ด้วยตรง เพราะฉะนั้นเราควรจะเน้นความเป็นหนึ่งของพระเจ้า แต่ในขณะเดียวกันเราควรจะเร็วในการยืนยันว่า พระเจ้าประกอบด้วยสามบุคคลภาพ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามนี้เป็นพระเจ้าองค์ เดียวกัน เสมอกัน ในฤทธานุภาพและสงูาราศี