เลือกดาวน์โหลด... ซ้ายมือสำหรับทำรูปแบบหนังสือ ขวามือสำหรับรูปแบบมือถือหรือแผ่นใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ
Choose a download... left for booklet, right for digital or other use.
ภาษาไทย
มารซาตานและวิญญาณชั่ว
Satan and evil spirits
Satan and evil spirits
เกี่ยวกับมันปลาตาลและวิญญาณชั่ว
ในบรรดาสัตว์ป่าทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างนั้น งู ฉลาดกว่าหมด มันถามหญิงนั้นว่า “จริงหรือ? ที่พระเจ้าตรัสว่า ‘ห้ามพวกเจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้’ ” -ปฐมกาล 3:1
พวกเขาจะต้องไม่ฆ่าสัตว์บูชาถวายปีศาจแพะซึ่งเขาทั้งหลายเคยกราบไหว้ อีกต่อไป ให้เรื่องนี้เป็นกฎเกณฑ์ถาวรสำหรับพวกเขาตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขาทั้งหลาย -เลวีนิติ 17:7
เขาบูชาพวกปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว -เฉลยธรรมบัญญัติ 32:17
ท่านฆ่าบุตรชายและบุตรหญิงของท่าน ถวายเป็นเครื่องสักการบูชาแก่ปีศาจ -สดุดี 106:37
“โอ เจ้าร่วงลงจากฟ้าสวรรค์อย่างไรหนอ เจ้าผู้ส่องแสง คือโอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าถูกเหวี่ยงลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ -อิสยาห์ 14:12
“เมื่อผีโสโครกออกมาจากใครแล้ว มันก็ท่องเที่ยวไปในที่กันดารน้ำเพื่อแสวงหาที่หยุดพัก แต่เมื่อไม่พบ มันจึงกล่าวว่า ‘ข้าจะกลับไปที่บ้านของข้า ที่ข้าจากมานั้น’ และเมื่อมาถึงก็พบว่าบ้านนั้นว่าง ถูกปัดกวาดและจัดเป็นระเบียบ มันจึงไปพาผีอื่นอีกเจ็ดตัวที่ร้ายกว่าตัวมันเองเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น แล้วในที่สุดคนนั้นก็ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายกว่าตอนแรก คนในยุคชั่วร้ายนี้ก็จะเป็นอย่างนั้น” -มัทธิว 12:43-45
พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตาน ตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ -ลูกา 10:18
“ซีโมน ซีโมนเอ๋ย นี่แน่ะ ซาตานขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลี แต่เราอธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” -ลูกา 22:31-32
….มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา ยอห์น 8:44
ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์ -ยอห์น 10:10
เพราะว่าคนพวกนั้นเป็นอัครทูตปลอม เป็นคนงานที่หลอกลวง พวกที่ปลอมตัวเป็นอัครทูตของพระคริสต์ การทำเช่นนั้นไม่ประหลาดเลย เพราะว่าซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ของความสว่าง 2 โครินธ์ 11:13-14
พระวิญญาณตรัสอย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณทั้งหลายที่ล่อลวง และคำสอนของพวกผี 1 ทิโมธี 4:1
คนนอกกฎหมายนั้นจะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ทุกอย่าง ทั้งหมายสำคัญ และการอัศจรรย์จอมปลอม 2 เธสะโลนิกา 2:9
บุตรทั้งหลายมีเลือดและเนื้อเช่นกันอย่างไร พระองค์ก็ทรงมีส่วนเช่นนั้นด้วยอย่างนั้น เพื่อโดยทางความตายนั้น พระองค์จะทรงทำลายมารผู้มีอำนาจ แห่งความตาย -ฮีบรู 2:14
ท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว นั่นก็ดี แม้พวกผีก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น -ยากอบ 2:19
จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรูของพวกท่านคือมาร ดุจสิงโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อต้านมันด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ โดยรู้ว่าพวกพี่น้องของพวกท่านทั่วโลก ก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน -1 เปโตร 5:8-9
ทุกคนที่ทำบาปก็ประพฤติผิดธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ผิดธรรมบัญญัติ พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และไม่มีบาปอยู่ในพระองค์เลย ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์และยังไม่รู้จักพระองค์ ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติชอบก็ชอบธรรมเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า เช่นนี้แหละ จึงเห็นได้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร คือผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า -1 ยอห์น 3:4-10
ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อทุกๆ วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้เผยพระวจนะเท็จจำนวนมากได้ออกมาในโลก -1 ยอห์น 4:1
เรารู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า แต่โลกทั้งหมดอยู่ในมือของมารร้าย -1 ยอห์น 5:19
และพวกทูตสวรรค์ที่ไม่รักษาอำนาจครอบครองของตนเอง แต่ละทิ้งถิ่นฐานของตน พระองค์ก็ทรงจองจำไว้ด้วยโซ่อันไม่รู้จักสลายในที่มืดจนกว่าจะถึงเวลาพิพากษาในวันยิ่งใหญ่นั้น -ยูดา 1:6
เพราะเหตุนี้จงรื่นเริงยินดีเถิด สวรรค์และบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์ แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าทั้งหลาย ด้วยความเดือดดาลอย่างยิ่ง เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย” -วิวรณ์ 12:12
พระเจ้าพระบิดามีอำนาจบนและจำกัดมารซาตาน
แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ? พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์” และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา” ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์ อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “ฝูงวัวกำลังไถนาอยู่ และฝูงลาตัวเมียกำลังกินหญ้าอยู่ข้างๆ คนเสบาก็มาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ไฟของพระเจ้าตกจากฟ้าไหม้แกะกับคนใช้ และเผาผลาญหมด และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองเข้าปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ลูกชายกับลูกสาวของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา และดูเถิด มีพายุข้ามถิ่นทุรกันดารมาปะทะบ้านทั้งสี่มุมจนพังลงทับคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็ตาย ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ ท่านว่า “ข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และข้าจะกลับไปตัวเปล่า พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์” -โยบ 1:9-21
ไม่ช้าพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงปราบซาตานให้ยับเยินลงใต้ฝ่าเท้าของพวกท่าน ขอพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านเถิด -โรม 16:20
เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์ โคโลสี 1:16
พระเยซูมีอำนาจบนและจำกัดมารซาตานและวิญญาณชั่ว
พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์ แต่ผู้เดียว’” -มัทธิว 4:10
พอค่ำลง พวกเขาพาคนจำนวนมากที่มีผีสิงมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงขับผีออกด้วยพระดำรัส และบรรดาคนเจ็บป่วยนั้น พระองค์ก็ทรงรักษาให้หาย -มัทธิว 8:16
ขณะนั้นเขาพาคนถูกผีสิงคนหนึ่งที่ตาบอดและเป็นใบ้มาหาพระองค์ พระองค์ทรงรักษาเขาให้หาย คนนั้นก็พูดได้และมองเห็น -มัทธิว 12:22
พระองค์จึงหันพระพักตร์ มาตรัสกับเปโตรว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเราเพราะเจ้าไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า แต่เจ้าคิดอย่างมนุษย์” -มัทธิว 16:23
เมื่อพระเยซูกับพวกสาวกเสด็จมาถึงฝูงชนแล้ว มีชายคนหนึ่งมาหาพระองค์คุกเข่าลง ทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงพระเมตตาลูกของข้าพระองค์เถิด เพราะเขาเป็นโรคลมบ้าหมู มีความทุกข์ทรมานมาก เคยตกไฟตกน้ำบ่อยๆ ข้าพระองค์พาเขามาหาพวกสาวกของพระองค์ แต่สาวกรักษาเขาไม่ได้” พระเยซูตรัสตอบว่า “โอ นี่เป็นยุคที่ขาดความเชื่อและวิปลาส เราจะต้องอดกลั้นกับพวกท่านนานเพียงไร? จงพาเด็กคนนั้นมาหาเราที่นี่เถิด” พระเยซูจึงตรัสสำทับผีนั้น มันก็ออกจากตัวเด็ก ในทันใดนั้นเด็กก็หายเป็นปกติ ภายหลังสาวกทั้งหลายของพระเยซูมาหาพระองค์เป็นการส่วนตัว ทูลถามว่า “ทำไมพวกข้าพระองค์ขับผีนั้นออกไม่ได้?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เพราะว่าพวกท่านมีความเชื่อน้อย เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด เมล็ดหนึ่ง พวกท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า ‘จงเคลื่อนจากที่นี่ไปที่โน่น’ มันก็จะเคลื่อนไป และสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกท่านจะไม่มีเลย” -มัทธิว 17:14-20
เมื่อไรก็ตามที่บรรดาผีโสโครกเห็นพระองค์ พวกมันจะหมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องเสียงดังว่า “พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า” มาระโก 3:11
พระองค์กับพวกสาวกก็ข้ามทะเลไปอีกฟากหนึ่ง ไปยังเขตแดนของเมืองเก-ราซา พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ชายคนหนึ่งที่มีผีโสโครกสิงออกจากอุโมงค์ฝังศพมาพบพระองค์ทันที คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ ไม่มีใครสามารถล่ามเขาไว้ได้อีกแล้วแม้จะด้วยโซ่ตรวน เพราะเคยล่ามโซ่ใส่ตรวนเขาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็หักโซ่และฟาดตรวนหลุดออก ไม่มีใครมีแรงพอจะทำให้เขาสงบได้ เขาคลั่งร้องอื้ออึงและเอาหินเชือดเนื้อตัวเองอยู่เสมอตามอุโมงค์ฝังศพและบนภูเขาทั้งกลางคืนและกลางวัน เมื่อเขาเห็นพระเยซูแต่ไกลก็วิ่งเข้ามากราบไหว้พระองค์ แล้วร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระองค์ต้องการอะไรจากข้า? ขอพระองค์สาบานในพระนามของพระเจ้าว่าจะไม่ทรมานข้า” ที่พูดเช่นนี้เพราะพระองค์ตรัสกับมันว่า “ไอ้ผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้น” แล้วพระองค์ตรัสถามมันว่า “เจ้าชื่ออะไร?” มันตอบว่า “ข้าชื่อกองพล เพราะว่าพวกเรามีหลายตนด้วยกัน” มันจึงอ้อนวอนพระองค์อย่างมาก ที่จะไม่ให้ขับไล่พวกมันออกจากเขตแดนเมืองนั้น ขณะนั้นมีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่ไหล่เขาใกล้ๆ นั้น ผีเหล่านั้นก็อ้อนวอนพระองค์ว่า “ขอส่งพวกเราเข้าไปในฝูงสุกร เพื่อให้พวกเราสิงในตัวพวกมัน” พระองค์ก็ทรงอนุญาต ผีโสโครกเหล่านั้นจึงออกไปสิงอยู่ในสุกร แล้วสุกรทั้งฝูงประมาณสองพันตัวก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเลและสำลักน้ำตาย ส่วนพวกคนที่เลี้ยงสุกรนั้นต่างหนีไปและเล่าเรื่องนี้ทั้งในเมืองและนอกเมือง คนทั้งหลายก็ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น พวกเขามาหาพระเยซูและเห็นคนที่เคยถูกผีทั้งกองเข้าสิง นุ่งห่มผ้ามีสติสัมปชัญญะนั่งอยู่ที่นั่น พวกเขาจึงเกรงกลัว แล้วคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าให้พวกเขาฟังถึงเรื่องที่เกิดกับคนที่ถูกผีสิงและที่เกิดกับฝูงสุกร คนทั้งหลายจึงพากันอ้อนวอนขอให้พระองค์เสด็จไปเสียจากเขตเมืองของพวกเขา ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จลงเรือ คนที่เคยถูกผีสิงอ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไปด้วย แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงไปหาพวกพ้องของท่านที่บ้าน แล้วบอกพวกเขาถึงสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำแก่ท่านว่ามากเพียงไร และเล่าถึงพระเมตตาที่พระองค์ทรงสำแดงแก่ท่าน” คนนั้นจึงทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี ถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงทำเพื่อเขา และคนทั้งหลายก็ประหลาดใจ -มาระโก 5:1-20
พร้อมกับผู้หญิงบางคนที่ได้รับการรักษาให้พ้นจากวิญญาณชั่วและโรคภัยต่างๆ ได้แก่มารีย์ที่เรียกกันว่าชาวมักดาลา คนที่มีผีเจ็ดตนออกจากตัว ลูกา 8:2
ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาพวกเขาออกไปจากโลก แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย -ยอห์น 17:15
คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ -กิจการ 10:38
พี่น้องคริสเตียนทั้งหลายมีอำนาจบนมารซาตานและวิญญาณชั่ว
พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมา แล้วทรงใช้พวกเขาออกไปเป็นคู่ๆ และประทานสิทธิอำนาจให้พวกเขาขับผีร้ายออกได้ -มาระโก 6:7
มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่นั้น คือพวกเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ -มาระโก 16:17
สาวกเจ็ดสิบสองคนนั้นกลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยู่ใต้บังคับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตาน ตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรูนั้น ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย -ลูกา 10:17-19
“เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา -ยอห์น 14:12
เมื่อเรากำลังออกไปยังที่สำหรับอธิษฐาน มีทาสสาวคนหนึ่งที่มีผีหมอดูเข้าสิงมาพบกับเรา (นางหาเงินให้กับเจ้านายทั้งหลายของนางได้เป็นจำนวนมากด้วยวิธีการทำนายทายทัก) นางเดินตามเปาโลกับเราไป ร้องว่า “คนเหล่านี้เป็นทาสของพระเจ้าสูงสุด มากล่าวประกาศทางรอดกับพวกท่าน” และนางทำแบบนี้อยู่หลายวัน แต่เปาโลรำคาญใจ หันมาสั่งผีนั้นว่า “ในพระนามของพระเยซูคริสต์ จงออกมาจากตัวเขา” ผีนั้นก็ออกทันที -กิจการ 16:16-18
แต่พวกยิวบางคนที่เที่ยวเป็นหมอผี พยายามใช้พระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้ากับพวกที่มีผีเข้าว่า “ข้าสั่งเจ้าโดยพระเยซูผู้ที่เปาโลประกาศนั้น” บุตรชายเจ็ดคนของเส-วาซึ่งเป็นหัวหน้าปุโรหิตคนหนึ่งของชาวยิวก็ทำอย่างนั้น ผีร้ายจึงพูดกับพวกเขาว่า “พระเยซูนั้นข้าก็คุ้นเคย และเปาโลนั้นข้าก็รู้จัก แต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?” แล้วคนที่มีผีสิงนั้นก็กระโดดใส่คนเหล่านั้นและต่อสู้เอาชนะพวกเขาจนเขาต้องหนีออกจากบ้านนั้นในสภาพเปลือยกายและบาดเจ็บ -กิจการ 19:13-16
ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้ -1 โครินธ์ 10:13
เพราะว่า ถึงแม้ว่าเราดำเนินชีวิตอยู่ในร่างกายมนุษย์ แต่เราก็ไม่ได้สู้รบตามแบบมนุษย์ทั่วๆ ไป เพราะว่าอาวุธของเราที่ใช้สู้รบไม่ใช่แบบมนุษย์ แต่เป็นฤทธานุภาพจากพระเจ้าที่จะทำลายป้อมปราการได้ คือทำลายเหตุผลปลอมทั้งหลาย และความเย่อหยิ่งทุกรูปแบบที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และจะยึดกุมความคิดทุกประการให้มาเชื่อฟังพระคริสต์ ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ดูราวกับว่า ข้าพเจ้าทำให้ท่านกลัวด้วยจดหมาย -2 โครินธ์ 10:3-5, 9
จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะสามารถต่อสู้กับอุบายของมารได้ เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน -เอเฟซัส 6:11-12
เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป -ยากอบ 4:7
ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านอยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในพวกท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก -1 ยอห์น 4:4
เรารู้ว่าทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป แต่พระองค์ผู้ทรงบังเกิดจากพระเจ้าทรงคุ้มครองรักษาเขา และมารร้ายไม่แตะต้องเขา เรารู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า แต่โลกทั้งหมดอยู่ในมือของมารร้าย -1 ยอห์น 5:18-19
ในบรรดาสัตว์ป่าทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างนั้น งู ฉลาดกว่าหมด มันถามหญิงนั้นว่า “จริงหรือ? ที่พระเจ้าตรัสว่า ‘ห้ามพวกเจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้’ ” -ปฐมกาล 3:1
พวกเขาจะต้องไม่ฆ่าสัตว์บูชาถวายปีศาจแพะซึ่งเขาทั้งหลายเคยกราบไหว้ อีกต่อไป ให้เรื่องนี้เป็นกฎเกณฑ์ถาวรสำหรับพวกเขาตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขาทั้งหลาย -เลวีนิติ 17:7
เขาบูชาพวกปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว -เฉลยธรรมบัญญัติ 32:17
ท่านฆ่าบุตรชายและบุตรหญิงของท่าน ถวายเป็นเครื่องสักการบูชาแก่ปีศาจ -สดุดี 106:37
“โอ เจ้าร่วงลงจากฟ้าสวรรค์อย่างไรหนอ เจ้าผู้ส่องแสง คือโอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าถูกเหวี่ยงลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ -อิสยาห์ 14:12
“เมื่อผีโสโครกออกมาจากใครแล้ว มันก็ท่องเที่ยวไปในที่กันดารน้ำเพื่อแสวงหาที่หยุดพัก แต่เมื่อไม่พบ มันจึงกล่าวว่า ‘ข้าจะกลับไปที่บ้านของข้า ที่ข้าจากมานั้น’ และเมื่อมาถึงก็พบว่าบ้านนั้นว่าง ถูกปัดกวาดและจัดเป็นระเบียบ มันจึงไปพาผีอื่นอีกเจ็ดตัวที่ร้ายกว่าตัวมันเองเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น แล้วในที่สุดคนนั้นก็ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายกว่าตอนแรก คนในยุคชั่วร้ายนี้ก็จะเป็นอย่างนั้น” -มัทธิว 12:43-45
พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตาน ตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ -ลูกา 10:18
“ซีโมน ซีโมนเอ๋ย นี่แน่ะ ซาตานขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลี แต่เราอธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน” -ลูกา 22:31-32
….มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา ยอห์น 8:44
ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์ -ยอห์น 10:10
เพราะว่าคนพวกนั้นเป็นอัครทูตปลอม เป็นคนงานที่หลอกลวง พวกที่ปลอมตัวเป็นอัครทูตของพระคริสต์ การทำเช่นนั้นไม่ประหลาดเลย เพราะว่าซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ของความสว่าง 2 โครินธ์ 11:13-14
พระวิญญาณตรัสอย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณทั้งหลายที่ล่อลวง และคำสอนของพวกผี 1 ทิโมธี 4:1
คนนอกกฎหมายนั้นจะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ทุกอย่าง ทั้งหมายสำคัญ และการอัศจรรย์จอมปลอม 2 เธสะโลนิกา 2:9
บุตรทั้งหลายมีเลือดและเนื้อเช่นกันอย่างไร พระองค์ก็ทรงมีส่วนเช่นนั้นด้วยอย่างนั้น เพื่อโดยทางความตายนั้น พระองค์จะทรงทำลายมารผู้มีอำนาจ แห่งความตาย -ฮีบรู 2:14
ท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว นั่นก็ดี แม้พวกผีก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น -ยากอบ 2:19
จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรูของพวกท่านคือมาร ดุจสิงโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อต้านมันด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ โดยรู้ว่าพวกพี่น้องของพวกท่านทั่วโลก ก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน -1 เปโตร 5:8-9
ทุกคนที่ทำบาปก็ประพฤติผิดธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ผิดธรรมบัญญัติ พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และไม่มีบาปอยู่ในพระองค์เลย ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์และยังไม่รู้จักพระองค์ ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้หลง ผู้ที่ประพฤติชอบก็ชอบธรรมเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงชอบธรรม ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า เช่นนี้แหละ จึงเห็นได้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า และใครเป็นลูกของมาร คือผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า -1 ยอห์น 3:4-10
ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อทุกๆ วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้เผยพระวจนะเท็จจำนวนมากได้ออกมาในโลก -1 ยอห์น 4:1
เรารู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า แต่โลกทั้งหมดอยู่ในมือของมารร้าย -1 ยอห์น 5:19
และพวกทูตสวรรค์ที่ไม่รักษาอำนาจครอบครองของตนเอง แต่ละทิ้งถิ่นฐานของตน พระองค์ก็ทรงจองจำไว้ด้วยโซ่อันไม่รู้จักสลายในที่มืดจนกว่าจะถึงเวลาพิพากษาในวันยิ่งใหญ่นั้น -ยูดา 1:6
เพราะเหตุนี้จงรื่นเริงยินดีเถิด สวรรค์และบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์ แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าทั้งหลาย ด้วยความเดือดดาลอย่างยิ่ง เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย” -วิวรณ์ 12:12
พระเจ้าพระบิดามีอำนาจบนและจำกัดมารซาตาน
แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ? พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์” และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา” ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์ อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “ฝูงวัวกำลังไถนาอยู่ และฝูงลาตัวเมียกำลังกินหญ้าอยู่ข้างๆ คนเสบาก็มาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ไฟของพระเจ้าตกจากฟ้าไหม้แกะกับคนใช้ และเผาผลาญหมด และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองเข้าปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ลูกชายกับลูกสาวของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา และดูเถิด มีพายุข้ามถิ่นทุรกันดารมาปะทะบ้านทั้งสี่มุมจนพังลงทับคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็ตาย ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน” แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ ท่านว่า “ข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และข้าจะกลับไปตัวเปล่า พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์” -โยบ 1:9-21
ไม่ช้าพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงปราบซาตานให้ยับเยินลงใต้ฝ่าเท้าของพวกท่าน ขอพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านเถิด -โรม 16:20
เพราะว่าโดยพระองค์ทุกสิ่งได้รับการทรงสร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าและบนแผ่นดินโลก ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นบัลลังก์แห่งพวกภูตผี หรือพวกภูตผีที่ปกครอง หรือพวกภูตผีที่ครอบครอง หรือพวกภูตผีที่มีอำนาจ ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์ โคโลสี 1:16
พระเยซูมีอำนาจบนและจำกัดมารซาตานและวิญญาณชั่ว
พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์ แต่ผู้เดียว’” -มัทธิว 4:10
พอค่ำลง พวกเขาพาคนจำนวนมากที่มีผีสิงมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงขับผีออกด้วยพระดำรัส และบรรดาคนเจ็บป่วยนั้น พระองค์ก็ทรงรักษาให้หาย -มัทธิว 8:16
ขณะนั้นเขาพาคนถูกผีสิงคนหนึ่งที่ตาบอดและเป็นใบ้มาหาพระองค์ พระองค์ทรงรักษาเขาให้หาย คนนั้นก็พูดได้และมองเห็น -มัทธิว 12:22
พระองค์จึงหันพระพักตร์ มาตรัสกับเปโตรว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเราเพราะเจ้าไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า แต่เจ้าคิดอย่างมนุษย์” -มัทธิว 16:23
เมื่อพระเยซูกับพวกสาวกเสด็จมาถึงฝูงชนแล้ว มีชายคนหนึ่งมาหาพระองค์คุกเข่าลง ทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงพระเมตตาลูกของข้าพระองค์เถิด เพราะเขาเป็นโรคลมบ้าหมู มีความทุกข์ทรมานมาก เคยตกไฟตกน้ำบ่อยๆ ข้าพระองค์พาเขามาหาพวกสาวกของพระองค์ แต่สาวกรักษาเขาไม่ได้” พระเยซูตรัสตอบว่า “โอ นี่เป็นยุคที่ขาดความเชื่อและวิปลาส เราจะต้องอดกลั้นกับพวกท่านนานเพียงไร? จงพาเด็กคนนั้นมาหาเราที่นี่เถิด” พระเยซูจึงตรัสสำทับผีนั้น มันก็ออกจากตัวเด็ก ในทันใดนั้นเด็กก็หายเป็นปกติ ภายหลังสาวกทั้งหลายของพระเยซูมาหาพระองค์เป็นการส่วนตัว ทูลถามว่า “ทำไมพวกข้าพระองค์ขับผีนั้นออกไม่ได้?” พระเยซูตรัสตอบว่า “เพราะว่าพวกท่านมีความเชื่อน้อย เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด เมล็ดหนึ่ง พวกท่านจะสั่งภูเขานี้ว่า ‘จงเคลื่อนจากที่นี่ไปที่โน่น’ มันก็จะเคลื่อนไป และสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกท่านจะไม่มีเลย” -มัทธิว 17:14-20
เมื่อไรก็ตามที่บรรดาผีโสโครกเห็นพระองค์ พวกมันจะหมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องเสียงดังว่า “พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า” มาระโก 3:11
พระองค์กับพวกสาวกก็ข้ามทะเลไปอีกฟากหนึ่ง ไปยังเขตแดนของเมืองเก-ราซา พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ชายคนหนึ่งที่มีผีโสโครกสิงออกจากอุโมงค์ฝังศพมาพบพระองค์ทันที คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ ไม่มีใครสามารถล่ามเขาไว้ได้อีกแล้วแม้จะด้วยโซ่ตรวน เพราะเคยล่ามโซ่ใส่ตรวนเขาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็หักโซ่และฟาดตรวนหลุดออก ไม่มีใครมีแรงพอจะทำให้เขาสงบได้ เขาคลั่งร้องอื้ออึงและเอาหินเชือดเนื้อตัวเองอยู่เสมอตามอุโมงค์ฝังศพและบนภูเขาทั้งกลางคืนและกลางวัน เมื่อเขาเห็นพระเยซูแต่ไกลก็วิ่งเข้ามากราบไหว้พระองค์ แล้วร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระองค์ต้องการอะไรจากข้า? ขอพระองค์สาบานในพระนามของพระเจ้าว่าจะไม่ทรมานข้า” ที่พูดเช่นนี้เพราะพระองค์ตรัสกับมันว่า “ไอ้ผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้น” แล้วพระองค์ตรัสถามมันว่า “เจ้าชื่ออะไร?” มันตอบว่า “ข้าชื่อกองพล เพราะว่าพวกเรามีหลายตนด้วยกัน” มันจึงอ้อนวอนพระองค์อย่างมาก ที่จะไม่ให้ขับไล่พวกมันออกจากเขตแดนเมืองนั้น ขณะนั้นมีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่ไหล่เขาใกล้ๆ นั้น ผีเหล่านั้นก็อ้อนวอนพระองค์ว่า “ขอส่งพวกเราเข้าไปในฝูงสุกร เพื่อให้พวกเราสิงในตัวพวกมัน” พระองค์ก็ทรงอนุญาต ผีโสโครกเหล่านั้นจึงออกไปสิงอยู่ในสุกร แล้วสุกรทั้งฝูงประมาณสองพันตัวก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเลและสำลักน้ำตาย ส่วนพวกคนที่เลี้ยงสุกรนั้นต่างหนีไปและเล่าเรื่องนี้ทั้งในเมืองและนอกเมือง คนทั้งหลายก็ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น พวกเขามาหาพระเยซูและเห็นคนที่เคยถูกผีทั้งกองเข้าสิง นุ่งห่มผ้ามีสติสัมปชัญญะนั่งอยู่ที่นั่น พวกเขาจึงเกรงกลัว แล้วคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าให้พวกเขาฟังถึงเรื่องที่เกิดกับคนที่ถูกผีสิงและที่เกิดกับฝูงสุกร คนทั้งหลายจึงพากันอ้อนวอนขอให้พระองค์เสด็จไปเสียจากเขตเมืองของพวกเขา ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จลงเรือ คนที่เคยถูกผีสิงอ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไปด้วย แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงไปหาพวกพ้องของท่านที่บ้าน แล้วบอกพวกเขาถึงสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำแก่ท่านว่ามากเพียงไร และเล่าถึงพระเมตตาที่พระองค์ทรงสำแดงแก่ท่าน” คนนั้นจึงทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี ถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงทำเพื่อเขา และคนทั้งหลายก็ประหลาดใจ -มาระโก 5:1-20
พร้อมกับผู้หญิงบางคนที่ได้รับการรักษาให้พ้นจากวิญญาณชั่วและโรคภัยต่างๆ ได้แก่มารีย์ที่เรียกกันว่าชาวมักดาลา คนที่มีผีเจ็ดตนออกจากตัว ลูกา 8:2
ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาพวกเขาออกไปจากโลก แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย -ยอห์น 17:15
คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ -กิจการ 10:38
พี่น้องคริสเตียนทั้งหลายมีอำนาจบนมารซาตานและวิญญาณชั่ว
พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมา แล้วทรงใช้พวกเขาออกไปเป็นคู่ๆ และประทานสิทธิอำนาจให้พวกเขาขับผีร้ายออกได้ -มาระโก 6:7
มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่นั้น คือพวกเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ -มาระโก 16:17
สาวกเจ็ดสิบสองคนนั้นกลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยู่ใต้บังคับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตาน ตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรูนั้น ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย -ลูกา 10:17-19
“เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา -ยอห์น 14:12
เมื่อเรากำลังออกไปยังที่สำหรับอธิษฐาน มีทาสสาวคนหนึ่งที่มีผีหมอดูเข้าสิงมาพบกับเรา (นางหาเงินให้กับเจ้านายทั้งหลายของนางได้เป็นจำนวนมากด้วยวิธีการทำนายทายทัก) นางเดินตามเปาโลกับเราไป ร้องว่า “คนเหล่านี้เป็นทาสของพระเจ้าสูงสุด มากล่าวประกาศทางรอดกับพวกท่าน” และนางทำแบบนี้อยู่หลายวัน แต่เปาโลรำคาญใจ หันมาสั่งผีนั้นว่า “ในพระนามของพระเยซูคริสต์ จงออกมาจากตัวเขา” ผีนั้นก็ออกทันที -กิจการ 16:16-18
แต่พวกยิวบางคนที่เที่ยวเป็นหมอผี พยายามใช้พระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้ากับพวกที่มีผีเข้าว่า “ข้าสั่งเจ้าโดยพระเยซูผู้ที่เปาโลประกาศนั้น” บุตรชายเจ็ดคนของเส-วาซึ่งเป็นหัวหน้าปุโรหิตคนหนึ่งของชาวยิวก็ทำอย่างนั้น ผีร้ายจึงพูดกับพวกเขาว่า “พระเยซูนั้นข้าก็คุ้นเคย และเปาโลนั้นข้าก็รู้จัก แต่พวกเจ้าเป็นใครกัน?” แล้วคนที่มีผีสิงนั้นก็กระโดดใส่คนเหล่านั้นและต่อสู้เอาชนะพวกเขาจนเขาต้องหนีออกจากบ้านนั้นในสภาพเปลือยกายและบาดเจ็บ -กิจการ 19:13-16
ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้ -1 โครินธ์ 10:13
เพราะว่า ถึงแม้ว่าเราดำเนินชีวิตอยู่ในร่างกายมนุษย์ แต่เราก็ไม่ได้สู้รบตามแบบมนุษย์ทั่วๆ ไป เพราะว่าอาวุธของเราที่ใช้สู้รบไม่ใช่แบบมนุษย์ แต่เป็นฤทธานุภาพจากพระเจ้าที่จะทำลายป้อมปราการได้ คือทำลายเหตุผลปลอมทั้งหลาย และความเย่อหยิ่งทุกรูปแบบที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และจะยึดกุมความคิดทุกประการให้มาเชื่อฟังพระคริสต์ ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ดูราวกับว่า ข้าพเจ้าทำให้ท่านกลัวด้วยจดหมาย -2 โครินธ์ 10:3-5, 9
จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะสามารถต่อสู้กับอุบายของมารได้ เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน -เอเฟซัส 6:11-12
เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป -ยากอบ 4:7
ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านอยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในพวกท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก -1 ยอห์น 4:4
เรารู้ว่าทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป แต่พระองค์ผู้ทรงบังเกิดจากพระเจ้าทรงคุ้มครองรักษาเขา และมารร้ายไม่แตะต้องเขา เรารู้ว่าเราเกิดจากพระเจ้า แต่โลกทั้งหมดอยู่ในมือของมารร้าย -1 ยอห์น 5:18-19