เลือกดาวน์โหลด... ซ้ายมือสำหรับทำรูปแบบหนังสือ ขวามือสำหรับรูปแบบมือถือหรือแผ่นใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ
Choose a download... left for booklet, right for digital or other use.
ภาษาไทย
การต่อสู้
Fighting
Fighting
การป้องกันตัว
ถ้าผู้ใดเห็นขโมยกำลังขุดช่องย่องเบายามค่ำคืน แล้วตีขโมยนั้นตาย เขาไม่มีความผิด ถ้าดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว ผู้ตีจะมีความผิด ขโมยนั้นต้องชดใช้ ถ้าเขาไม่มีอะไรจะใช้ให้ เขาต้องขายตัวเป็นทาสเพื่อจ่ายค่าของสัตว์ที่ลักไปนั้น -อพยพ 22:2-3
ตามจดหมายเหล่านี้กษัตริย์ทรงอนุญาตให้พวกยิวผู้อยู่ในทุกเมืองมาชุมนุมกันเพื่อป้องกันชีวิตของตน เพื่อทำลาย เพื่อสังหารและเพื่อล้างผลาญกองกำลังทั้งสิ้นของประชาชนหรือของมณฑล ซึ่งจะมาทำร้ายพวกเขาทั้งเด็กและผู้หญิง และมาปล้นข้าวของของพวกเขาไป -เอสเธอร์ 8:11
คนชอบธรรมที่ยอมแพ้คนอธรรม ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือเหมือนน้ำบ่อที่สกปรก -สุภาษิต 25:26
เมื่อคนที่มีกำลังถืออาวุธเฝ้าตึกของตนอยู่ สิ่งของของเขาก็ปลอดภัย -ลูกา 11:21
การบังคับของรัฐบาล
และที่แน่ๆ คือโลหิตที่เป็นชีวิตของพวกเจ้านั้นเราจะทวง เราจะทวงจากมือของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง จากมือของมนุษย์ เราจะทวงชีวิตมนุษย์จากมือของพี่น้องของเขา ใครทำให้มนุษย์โลหิตไหล มนุษย์จะทำให้โลหิตผู้นั้นไหลเหมือนกัน เพราะพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ตามพระฉายาของพระองค์ -ปฐมกาล 9:5-6
ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า รอยไหม้แทนรอยไหม้ แผลแทนแผล รอยช้ำแทนรอยช้ำ -อพยพ 21:24-25
เมื่อมีการปฏิบัติอย่างยุติธรรม คนชอบธรรมก็ยินดี แต่คนประพฤติชั่วหวาดผวา -สุภาษิต 21:15
เพราะว่าผู้ครอบครองนั้น เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำความชั่วก็จงกลัวเถิด เพราะว่าผู้ครอบครองไม่ได้ถือดาบไว้เฉยๆ แต่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และจะเป็นผู้ลงโทษแทนพระเจ้าแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว -โรม 13:4
เตรียมตัวให้พร้อม (พบอาวุธ)
และดาวิดสั่งพวกของท่านว่า “ทุกคนจงเอาดาบคาดเอวไว้” และทุกคนก็เอาดาบคาดเอวของตน และดาวิดก็เอาดาบคาดเอวด้วย มีคนตามดาวิดขึ้นไปประมาณ 400 คน ส่วนอีก 200 คนอยู่เฝ้ากองสัมภาระ -1 ซามูเอล 25:13
สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก -สดุดี 144:1
ผู้ที่ก่อสร้างกำแพง และบรรดาผู้ที่ขนของก็ยกของขึ้น ทุกคนมือหนึ่งทำงาน อีกมือหนึ่งถืออาวุธไว้ ผู้ก่อสร้างทุกคนมีดาบคาดอยู่ที่สีข้างขณะที่เขาสร้าง ชายที่เป่าเขาสัตว์อยู่ข้างข้าพเจ้า -เนหะมีย์ 4:17-18
พระองค์จึงตรัสถามพวกสาวกว่า “เมื่อเราใช้พวกท่านออกไปโดยไม่มีถุงเงินหรือย่ามหรือรองเท้านั้น ท่านขาดอะไรบ้างไหม?” พวกเขาทูลตอบว่า “ไม่ขาดเลย” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “แต่ตอนนี้ใครมีถุงเงินให้เอาไปด้วย มีย่ามก็ให้เอาไปเหมือนกัน และคนที่ไม่มีดาบก็ให้ขายเสื้อคลุมของตนไปซื้อดาบ เราบอกท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่เขียนไว้แล้วจะต้องสำเร็จในเรา คือที่ว่า ‘ท่านถูกนับเข้ากับคนอธรรม’ เพราะว่าสิ่งที่เล็งถึงเรานั้นกำลังจะสำเร็จแล้ว” พวกเขาทูลตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า นี่แน่ะ มีดาบสองเล่ม” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “พอแล้ว” -ลูกา 22:35-38
พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย เพราะว่าพวกที่ใช้ดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะทูลขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ? และพระองค์ก็จะประทานทูตสวรรค์ให้เรามากกว่าสิบสองกองพลในทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อพระคัมภีร์ที่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?” -มัทธิว 26:52-54
(อธิบายอีกนิดนึงว่า เปโตรกำลังพบอาวุธอยู่ตามที่พระเยซูบอกให้พบ เวลาพระเยซูบอกให้เก็บอาวุธ พระเยซูกำลังจะบอกให้เก็บในที่ของมันไม่ใช่เอาไปทิ้ง ไม่มีใครควรจะรวดเร็วในการใช้อาวุธ แต่พวกเราที่เป็นผู้ชายควรจะพบอาวุธในที่ของมัน)
เกี่ยวกับสงคราม
พระยาห์เวห์ทรงเป็นนักรบ ยาห์เวห์คือพระนามของพระองค์ -อพยพ 15:3
และโมเสสกล่าวกับประชาชนว่า “จงเตรียมคนในพวกเจ้าให้พร้อมด้วยอาวุธเพื่อทำสงคราม แล้วยกไปสู้กับพวกมีเดียน เพื่อแก้แค้นคนมีเดียนให้กับพระยาห์เวห์ -กันดารวิถี 31:3
“เมื่อท่านจะออกไปทำสงครามกับพวกศัตรูของท่าน ท่านเห็นม้า รถรบ และประชาชนจำนวนมากกว่าของท่าน ท่านอย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ทรงนำท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์สถิตกับท่าน และเมื่อใกล้จะรบกัน ปุโรหิตจะออกมาอยู่ข้างหน้าและกล่าวแก่ประชาชน และจะกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘โอ อิสราเอล จงฟังเถิด วันนี้พวกท่านมาใกล้จะสู้รบกับศัตรูของท่าน อย่าให้ใจของท่านทั้งหลายวิตก อย่ากลัวหรือหวาดหวั่น หรือครั่นคร้ามต่อพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเสด็จไปกับท่าน ทรงต่อสู้ศัตรูของท่านเพื่อท่าน จะทรงช่วยกู้ท่าน’ แต่จงทำลายเขาเสียให้สิ้นเชิง คือคนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาไว้ เพื่อว่าเขาจะไม่สอนท่านให้ทำสิ่งพึงรังเกียจ ซึ่งเขาได้ทำต่อพระของเขา เพราะการทำเช่นนั้นเป็นการทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน -เฉลยธรรมบัญญัติ 20:1-4, 17-18
ในคืนวันนั้นพระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “จงลุกขึ้นลงไปตีค่ายเถิด เพราะเรามอบเขาไว้ในมือของเจ้าแล้ว -ผู้วินิจฉัย 7:9
และดาวิดทูลถามพระยาห์เวห์ว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะไล่ตามกองปล้นนี้หรือ? ข้าพระองค์จะไปทันพวกเขาหรือ?” พระองค์ทรงตอบท่านว่า “จงไล่ตามเถิด เพราะเจ้าจะไปทันพวกเขาแน่ และจะช่วยกู้ได้แน่” -1 ซามูเอล 30:8
ม้าก็เตรียมไว้แล้วสำหรับวันทำศึก แต่ชัยชนะ เป็นของพระยาห์เวห์ -สุภาษิต 21:31
เพราะโดยการชี้แนะ เจ้าจะทำสงครามได้ และโดยมีที่ปรึกษามาก ย่อมมีชัยชนะ -สุภาษิต 24:6
เพราะพระองค์ประทานกำลังแก่ข้าพระองค์เพื่อทำสงคราม พระองค์ทรงทำให้บรรดาผู้ที่ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์สยบลงอย่างราบคาบ -สดุดี 18:39
สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก ทรงเป็นผู้อารักขาและป้อมปราการของข้าพระองค์ ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่ง และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์ ทรงเป็นโล่ของข้าพระองค์ และทรงเป็นผู้ซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัย ผู้ทรงปราบชนชาติทั้งหลาย ให้อยู่ใต้ข้าพระองค์ -สดุดี 144:1-2
ทำไมพระอะบิสจึงหนีเสียเล่า? ทำไมรูปวัวผู้ของเจ้าไม่ยืนมั่นอยู่? เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงผลักเขาล้มลง -เยเรมีย์ 46:15
จงประกาศเรื่องนี้ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย จงเตรียมการรบ จงเร้าใจนักรบทั้งหลาย ให้ทหารทุกคนเข้ามาใกล้ ให้เขาขึ้นมา -โยเอล 3:9
รวมกันเข้าพวกเขาจะเป็นอย่างชายฉกรรจ์ในสงคราม เหยียบย่ำศัตรูไปในโคลนตามถนน พวกเขาจะสู้รบเพราะพระยาห์เวห์สถิตกับเขา เขาจะทำให้ทหารม้าอับอายขายหน้า -เศคาริยาห์ 10:5
สงครามวันสิ้นโลก
ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย เพราะว่าทุกสิ่งจะต้องเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังมาไม่ถึง เพราะว่า ประชาชาติกับประชาชาติ และอาณาจักรกับอาณาจักรจะต่อสู้กัน ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ เพราะว่าในเวลานั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย ถ้าไม่ได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่พวกที่ทรงเลือก จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า -มัทธิว 24:6-7, 21-22
“หลังจากความทุกข์ลำบากนั้นผ่านพ้นไปแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง -มาระโก 13:24
แล้วข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิดออก และ นี่แน่ะ มีม้าสีขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า “ซื่อสัตย์และสัตย์จริง” พระองค์ทรงพิพากษาและทรงต่อสู้ด้วยความชอบธรรม พระเนตรของพระองค์เหมือนอย่างเปลวไฟ และบนพระเศียรของพระองค์มีมงกุฎหลายอัน พระองค์ทรงมีพระนามจารึกไว้ซึ่งไม่มีใครรู้จักเลยนอกจากพระองค์เอง พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่ได้จุ่มใน เลือด และพระนามที่เรียกพระองค์นั้นคือ “พระวาทะของพระเจ้า” กองทัพทั้งหลายในสวรรค์นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด สีขาวสะอาด ขี่ม้าขาวตามเสด็จพระองค์ไป มีพระแสง คมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ ของพระองค์ เพื่อพระองค์จะทรงใช้มันฟาดฟันประชาชาติต่างๆ และพระองค์จะทรงครอบครองเขาทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก พระองค์จะทรงย่ำบ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธรุนแรงของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุ ของพระองค์ว่า “กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลายและเจ้านายเหนือเจ้านาย ทั้งหลาย” แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่บนดวงอาทิตย์ ท่านร้องประกาศเสียงดังแก่นกทั้งหมดที่บินอยู่ในท้องฟ้าว่า “มาเถิด มาชุมนุมกันในงานเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า เพื่อจะกินเนื้อกษัตริย์ เนื้อนายทหาร เนื้อคนที่มีกำลังมาก เนื้อม้า เนื้อของคนทั้งหลายที่นั่งบนหลังของมัน และเนื้อของทุกคน ทั้งคนที่เป็นเสรีชนและเป็นทาส ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต” และข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้าย และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลก พร้อมทั้งกองทัพของกษัตริย์เหล่านั้น มาชุมนุมกันเพื่อทำสงครามกับพระองค์ผู้ทรงม้า และกับกองทัพของพระองค์ แต่สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมกับผู้เผยพระวจนะเท็จผู้ที่ทำหมายสำคัญต่อหน้ามัน และใช้หมายสำคัญนั้นล่อลวงคนทั้งหลายที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และคนทั้งหลายที่บูชารูปของมัน ทั้งสองถูกโยนลงไปทั้งเป็นในบึงไฟที่ลุกไหม้ด้วยกำมะถัน และคนที่เหลืออยู่ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ผู้ทรงม้านั้น และนกทั้งหมดก็อิ่มด้วยเนื้อของคนเหล่านั้น -วิวรณ์ 19:11-21
เมื่อครบหนึ่งพันปีแล้ว ซาตานจะถูกปล่อยออกจากคุกที่ขังมัน และมันจะออกไปล่อลวงประชาชาติต่างๆ ทั้งสี่ทิศของแผ่นดินโลก คือโกกและมาโกก ให้มาชุมนุมกันเพื่อเข้าสู่สงคราม จำนวนของเขาทั้งหลายเหมือนอย่างเม็ดทรายที่ทะเล และพวกเขายกขบวนออกไปทั่วแผ่นดินโลก และล้อมกองทัพของพวกธรรมิกชน และนครอันเป็นที่รักนั้นไว้ แต่ไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญคนเหล่านั้น ส่วนมารที่ล่อลวงเขาทั้งหลายก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน ที่ซึ่งสัตว์ร้ายและผู้เผยพระวจนะเท็จอยู่นั้น และพวกมันจะถูกทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์ -วิวรณ์ 20:7-10
การไม่สนับสนุนการต่อสู้เป็นกีฬาหรือกิจกรรมอดิเรก
"ชัยชนะ" สุดท้ายของชาวโรม (จาก foxes book of martyrs เป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์คริสเตียนผู้พลีชีพสมัยก่อน)
ชาวโรมันเพิ่งได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือพวกกอส (Goths) และเมื่อนายพลกลับมาที่กรุงโรม มีการเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกเขา ตามปกติแล้ว การเฉลิมฉลองจะมีการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ในโคลอสเซียม
ส่วนแรกของความบันเทิงนองเลือดจบลงแล้ว ร่างของคนตายถูกลากออกไปด้วยตะขอ หลังจากเสร็จสิ้น ประตูก็ถูกเปิดออก และชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งหลายคนก็ออกมาข้างหน้า บางคนถือดาบ บางคนถือตาข่ายและหอกสามง่าม พวกเขาเดินไปรอบ ๆ กำแพง และหยุดต่อหน้าจักรพรรดิ พวกเขาตะโกนว่า "ขอให้ศักดิ์ศรีมีแกซีซาร์ ผู้ที่กำลังจะตายขอคารวะท่าน!
เมื่อกลาดิเอเตอร์ได้ทำให้ศัตรูเจ็บในสังเวียนและยังไม่ตาย เขาจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ฟังแล้วถามว่า ข้าพเจ้าควรไว้ชีวิตหรือฆ่าเขา และถ้าผู้ฟังยกนิ้วโป้ง เขาจะงดเว้น และถ้าถูกลง แล้วเขาจะฆ่าเขา
การแสดงดำเนินต่อไป หลายคนถูกสังหาร และผู้คนต่างตื่นเต้นกับความกล้าหาญของผู้ที่ยังคงต่อสู้ต่อไป แต่ทันใดนั้นก็มีการหยุดชะงัก บุคคลผู้สวมชุดคลุมปรากฏตัวขึ้นชั่วขณะในหมู่ผู้ชม จากนั้นจึงกระโดดลงสู่สนามอย่างกล้าหาญ ก็ดูเป็นคนที่ธรรมดาศีรษะเปล่าและมีใบหน้าที่ซีดเผือด โดยไม่ลังเลเลยในทันที เขาจึงเดินเข้าไปหานักสู้สองคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และวางมือบนหนึ่งในนั้น ตำหนิเขาอย่างรุนแรงที่หลั่งโลหิตผู้บริสุทธิ์ แล้วหันไปทางใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวนับพันที่อยู่รอบตัวเขา เรียกด้วยเสียงที่เคร่งขรึมและเข้มซึ่งดังก้องผ่านส่วนที่ปิดลึก นี่คือคำพูดของเขา: "อย่าตอบแทนพระเมตตาของพระเจ้าในการหันดาบของศัตรูของคุณด้วยการสังหารซึ่งกันและกัน!
ตะโกนและร้องด้วยความโกรธทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงพูดของเขา: "ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเทศนา! -- ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมเก่าของกรุงโรม! กลาดิเอเตอร์จะโจมตีกันและกันอีกครั้ง แต่ชายผู้นั้นยืนอยู่ระหว่างนั้น แยกพวกเขาออกจากกัน และพยายามอย่างไร้ผลที่จะได้ยิน “ปลุกระดม! ปลุกระดม! ลงกับเขา!” ตอนนั้นคือเสียงร้อง และกลาดิเอเตอร์โกรธจัดที่คนนอกเข้ามายุ่งกับอาชีพที่พวกเขาเลือก ทันใดนั้นก็แทงเขาจนตาย
ชุดและการแต่งตัวของเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นนักบวชคริสเตียนคนหนึ่งที่ปฏิญาณตนว่าจะมีชีวิตอันบริสุทธิ์แห่งการอธิษฐานและการปฏิเสธตนเอง และเป็นที่เคารพนับถือของชาวโรมันแต่แต่เขาจะเป็นชนชาติที่ไร้ความคิดและรักการต่อสู้ ไม่กี่คนที่รู้จักเขาบอกว่าเขามาจากป่าแห่งเอเชียเพื่อเยี่ยม โบสถ์และรักษาคริสต์มาสของเขาที่โรม พวกเขารู้ว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ และชื่อของเขาคือเทเลมาคัส วิญญาณของเขาถูกปลุกเวลาเห็นผู้คนนับพันที่แห่กันไปเห็นคนฆ่ากันเอง และด้วยความกระตือรือร้นอันเรียบง่ายของเขา เขาได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาเห็นถึงความโหดร้ายและความชั่วร้ายของพฤติกรรมของพวกเขา เขาตายไปแล้ว แต่ไม่ไร้ประโยชน์ งานของเขาสำเร็จลุล่วงไปในขณะที่เขาถูกโจมตี เนื่องจากความตกใจของความตายก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะหันเหความสนใจของผู้คน พวกเขาเห็นด้านที่น่าสะพรึงกลัวของรองที่พวกเขายอมจำนนโดยสุ่มสี่สุ่มห้า และตั้งแต่วันที่เทเลมาคัสเสียชีวิตในโคลอสเซียม ก็ไม่เคยมีการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ที่นั่นอีกเลย
พระยาห์เวห์ทรงทดสอบทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม และพระองค์ทรงเกลียดชังผู้ที่รักความรุนแรง -สดุดี 11:5
อย่าอิจฉาคนโหดร้าย อย่าเลือกทางใดๆ ของเขาเลย -สุภาษิต 3:31
เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน -เอเฟซัส 6:12
การแก้แค้น
อย่าพูดว่า “ข้าจะแก้แค้นความชั่ว” จงรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงช่วยเจ้า -สุภาษิต 20:22
อย่ากล่าวว่า “ข้าจะทำแก่เขาอย่างที่เขาได้ทำแล้วแก่ข้า ข้าจะทำตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา” -สุภาษิต 24:29
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’ ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย -มัทธิว 5:38-39
พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย เพราะว่าพวกที่ใช้ดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะทูลขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ? และพระองค์ก็จะประทานทูตสวรรค์ให้เรามากกว่าสิบสองกองพลในทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อพระคัมภีร์ที่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?” -มัทธิว 26:52-54
ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน นี่แน่ะ ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้ แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงโทษ เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบแทน” -โรม 12:18-19
อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้าม จงอวยพร เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านทำเช่นนั้น เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพร -1 เปโตร 3:9
ถ้าผู้ใดเห็นขโมยกำลังขุดช่องย่องเบายามค่ำคืน แล้วตีขโมยนั้นตาย เขาไม่มีความผิด ถ้าดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว ผู้ตีจะมีความผิด ขโมยนั้นต้องชดใช้ ถ้าเขาไม่มีอะไรจะใช้ให้ เขาต้องขายตัวเป็นทาสเพื่อจ่ายค่าของสัตว์ที่ลักไปนั้น -อพยพ 22:2-3
ตามจดหมายเหล่านี้กษัตริย์ทรงอนุญาตให้พวกยิวผู้อยู่ในทุกเมืองมาชุมนุมกันเพื่อป้องกันชีวิตของตน เพื่อทำลาย เพื่อสังหารและเพื่อล้างผลาญกองกำลังทั้งสิ้นของประชาชนหรือของมณฑล ซึ่งจะมาทำร้ายพวกเขาทั้งเด็กและผู้หญิง และมาปล้นข้าวของของพวกเขาไป -เอสเธอร์ 8:11
คนชอบธรรมที่ยอมแพ้คนอธรรม ก็เหมือนน้ำพุมีโคลนหรือเหมือนน้ำบ่อที่สกปรก -สุภาษิต 25:26
เมื่อคนที่มีกำลังถืออาวุธเฝ้าตึกของตนอยู่ สิ่งของของเขาก็ปลอดภัย -ลูกา 11:21
การบังคับของรัฐบาล
และที่แน่ๆ คือโลหิตที่เป็นชีวิตของพวกเจ้านั้นเราจะทวง เราจะทวงจากมือของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง จากมือของมนุษย์ เราจะทวงชีวิตมนุษย์จากมือของพี่น้องของเขา ใครทำให้มนุษย์โลหิตไหล มนุษย์จะทำให้โลหิตผู้นั้นไหลเหมือนกัน เพราะพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ตามพระฉายาของพระองค์ -ปฐมกาล 9:5-6
ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า รอยไหม้แทนรอยไหม้ แผลแทนแผล รอยช้ำแทนรอยช้ำ -อพยพ 21:24-25
เมื่อมีการปฏิบัติอย่างยุติธรรม คนชอบธรรมก็ยินดี แต่คนประพฤติชั่วหวาดผวา -สุภาษิต 21:15
เพราะว่าผู้ครอบครองนั้น เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำความชั่วก็จงกลัวเถิด เพราะว่าผู้ครอบครองไม่ได้ถือดาบไว้เฉยๆ แต่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และจะเป็นผู้ลงโทษแทนพระเจ้าแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว -โรม 13:4
เตรียมตัวให้พร้อม (พบอาวุธ)
และดาวิดสั่งพวกของท่านว่า “ทุกคนจงเอาดาบคาดเอวไว้” และทุกคนก็เอาดาบคาดเอวของตน และดาวิดก็เอาดาบคาดเอวด้วย มีคนตามดาวิดขึ้นไปประมาณ 400 คน ส่วนอีก 200 คนอยู่เฝ้ากองสัมภาระ -1 ซามูเอล 25:13
สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก -สดุดี 144:1
ผู้ที่ก่อสร้างกำแพง และบรรดาผู้ที่ขนของก็ยกของขึ้น ทุกคนมือหนึ่งทำงาน อีกมือหนึ่งถืออาวุธไว้ ผู้ก่อสร้างทุกคนมีดาบคาดอยู่ที่สีข้างขณะที่เขาสร้าง ชายที่เป่าเขาสัตว์อยู่ข้างข้าพเจ้า -เนหะมีย์ 4:17-18
พระองค์จึงตรัสถามพวกสาวกว่า “เมื่อเราใช้พวกท่านออกไปโดยไม่มีถุงเงินหรือย่ามหรือรองเท้านั้น ท่านขาดอะไรบ้างไหม?” พวกเขาทูลตอบว่า “ไม่ขาดเลย” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “แต่ตอนนี้ใครมีถุงเงินให้เอาไปด้วย มีย่ามก็ให้เอาไปเหมือนกัน และคนที่ไม่มีดาบก็ให้ขายเสื้อคลุมของตนไปซื้อดาบ เราบอกท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่เขียนไว้แล้วจะต้องสำเร็จในเรา คือที่ว่า ‘ท่านถูกนับเข้ากับคนอธรรม’ เพราะว่าสิ่งที่เล็งถึงเรานั้นกำลังจะสำเร็จแล้ว” พวกเขาทูลตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า นี่แน่ะ มีดาบสองเล่ม” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “พอแล้ว” -ลูกา 22:35-38
พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย เพราะว่าพวกที่ใช้ดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะทูลขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ? และพระองค์ก็จะประทานทูตสวรรค์ให้เรามากกว่าสิบสองกองพลในทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อพระคัมภีร์ที่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?” -มัทธิว 26:52-54
(อธิบายอีกนิดนึงว่า เปโตรกำลังพบอาวุธอยู่ตามที่พระเยซูบอกให้พบ เวลาพระเยซูบอกให้เก็บอาวุธ พระเยซูกำลังจะบอกให้เก็บในที่ของมันไม่ใช่เอาไปทิ้ง ไม่มีใครควรจะรวดเร็วในการใช้อาวุธ แต่พวกเราที่เป็นผู้ชายควรจะพบอาวุธในที่ของมัน)
เกี่ยวกับสงคราม
พระยาห์เวห์ทรงเป็นนักรบ ยาห์เวห์คือพระนามของพระองค์ -อพยพ 15:3
และโมเสสกล่าวกับประชาชนว่า “จงเตรียมคนในพวกเจ้าให้พร้อมด้วยอาวุธเพื่อทำสงคราม แล้วยกไปสู้กับพวกมีเดียน เพื่อแก้แค้นคนมีเดียนให้กับพระยาห์เวห์ -กันดารวิถี 31:3
“เมื่อท่านจะออกไปทำสงครามกับพวกศัตรูของท่าน ท่านเห็นม้า รถรบ และประชาชนจำนวนมากกว่าของท่าน ท่านอย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ทรงนำท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์สถิตกับท่าน และเมื่อใกล้จะรบกัน ปุโรหิตจะออกมาอยู่ข้างหน้าและกล่าวแก่ประชาชน และจะกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘โอ อิสราเอล จงฟังเถิด วันนี้พวกท่านมาใกล้จะสู้รบกับศัตรูของท่าน อย่าให้ใจของท่านทั้งหลายวิตก อย่ากลัวหรือหวาดหวั่น หรือครั่นคร้ามต่อพวกเขาเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเสด็จไปกับท่าน ทรงต่อสู้ศัตรูของท่านเพื่อท่าน จะทรงช่วยกู้ท่าน’ แต่จงทำลายเขาเสียให้สิ้นเชิง คือคนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาไว้ เพื่อว่าเขาจะไม่สอนท่านให้ทำสิ่งพึงรังเกียจ ซึ่งเขาได้ทำต่อพระของเขา เพราะการทำเช่นนั้นเป็นการทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน -เฉลยธรรมบัญญัติ 20:1-4, 17-18
ในคืนวันนั้นพระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “จงลุกขึ้นลงไปตีค่ายเถิด เพราะเรามอบเขาไว้ในมือของเจ้าแล้ว -ผู้วินิจฉัย 7:9
และดาวิดทูลถามพระยาห์เวห์ว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะไล่ตามกองปล้นนี้หรือ? ข้าพระองค์จะไปทันพวกเขาหรือ?” พระองค์ทรงตอบท่านว่า “จงไล่ตามเถิด เพราะเจ้าจะไปทันพวกเขาแน่ และจะช่วยกู้ได้แน่” -1 ซามูเอล 30:8
ม้าก็เตรียมไว้แล้วสำหรับวันทำศึก แต่ชัยชนะ เป็นของพระยาห์เวห์ -สุภาษิต 21:31
เพราะโดยการชี้แนะ เจ้าจะทำสงครามได้ และโดยมีที่ปรึกษามาก ย่อมมีชัยชนะ -สุภาษิต 24:6
เพราะพระองค์ประทานกำลังแก่ข้าพระองค์เพื่อทำสงคราม พระองค์ทรงทำให้บรรดาผู้ที่ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์สยบลงอย่างราบคาบ -สดุดี 18:39
สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก ทรงเป็นผู้อารักขาและป้อมปราการของข้าพระองค์ ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่ง และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์ ทรงเป็นโล่ของข้าพระองค์ และทรงเป็นผู้ซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัย ผู้ทรงปราบชนชาติทั้งหลาย ให้อยู่ใต้ข้าพระองค์ -สดุดี 144:1-2
ทำไมพระอะบิสจึงหนีเสียเล่า? ทำไมรูปวัวผู้ของเจ้าไม่ยืนมั่นอยู่? เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงผลักเขาล้มลง -เยเรมีย์ 46:15
จงประกาศเรื่องนี้ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย จงเตรียมการรบ จงเร้าใจนักรบทั้งหลาย ให้ทหารทุกคนเข้ามาใกล้ ให้เขาขึ้นมา -โยเอล 3:9
รวมกันเข้าพวกเขาจะเป็นอย่างชายฉกรรจ์ในสงคราม เหยียบย่ำศัตรูไปในโคลนตามถนน พวกเขาจะสู้รบเพราะพระยาห์เวห์สถิตกับเขา เขาจะทำให้ทหารม้าอับอายขายหน้า -เศคาริยาห์ 10:5
สงครามวันสิ้นโลก
ท่านจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย เพราะว่าทุกสิ่งจะต้องเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยุคยังมาไม่ถึง เพราะว่า ประชาชาติกับประชาชาติ และอาณาจักรกับอาณาจักรจะต่อสู้กัน ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ เพราะว่าในเวลานั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย ถ้าไม่ได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่พวกที่ทรงเลือก จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า -มัทธิว 24:6-7, 21-22
“หลังจากความทุกข์ลำบากนั้นผ่านพ้นไปแล้ว ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง -มาระโก 13:24
แล้วข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิดออก และ นี่แน่ะ มีม้าสีขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า “ซื่อสัตย์และสัตย์จริง” พระองค์ทรงพิพากษาและทรงต่อสู้ด้วยความชอบธรรม พระเนตรของพระองค์เหมือนอย่างเปลวไฟ และบนพระเศียรของพระองค์มีมงกุฎหลายอัน พระองค์ทรงมีพระนามจารึกไว้ซึ่งไม่มีใครรู้จักเลยนอกจากพระองค์เอง พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่ได้จุ่มใน เลือด และพระนามที่เรียกพระองค์นั้นคือ “พระวาทะของพระเจ้า” กองทัพทั้งหลายในสวรรค์นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด สีขาวสะอาด ขี่ม้าขาวตามเสด็จพระองค์ไป มีพระแสง คมกริบออกมาจากพระโอษฐ์ ของพระองค์ เพื่อพระองค์จะทรงใช้มันฟาดฟันประชาชาติต่างๆ และพระองค์จะทรงครอบครองเขาทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก พระองค์จะทรงย่ำบ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธรุนแรงของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุ ของพระองค์ว่า “กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลายและเจ้านายเหนือเจ้านาย ทั้งหลาย” แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่บนดวงอาทิตย์ ท่านร้องประกาศเสียงดังแก่นกทั้งหมดที่บินอยู่ในท้องฟ้าว่า “มาเถิด มาชุมนุมกันในงานเลี้ยงใหญ่ของพระเจ้า เพื่อจะกินเนื้อกษัตริย์ เนื้อนายทหาร เนื้อคนที่มีกำลังมาก เนื้อม้า เนื้อของคนทั้งหลายที่นั่งบนหลังของมัน และเนื้อของทุกคน ทั้งคนที่เป็นเสรีชนและเป็นทาส ทั้งคนเล็กน้อยและคนใหญ่โต” และข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้าย และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลก พร้อมทั้งกองทัพของกษัตริย์เหล่านั้น มาชุมนุมกันเพื่อทำสงครามกับพระองค์ผู้ทรงม้า และกับกองทัพของพระองค์ แต่สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมกับผู้เผยพระวจนะเท็จผู้ที่ทำหมายสำคัญต่อหน้ามัน และใช้หมายสำคัญนั้นล่อลวงคนทั้งหลายที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และคนทั้งหลายที่บูชารูปของมัน ทั้งสองถูกโยนลงไปทั้งเป็นในบึงไฟที่ลุกไหม้ด้วยกำมะถัน และคนที่เหลืออยู่ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ผู้ทรงม้านั้น และนกทั้งหมดก็อิ่มด้วยเนื้อของคนเหล่านั้น -วิวรณ์ 19:11-21
เมื่อครบหนึ่งพันปีแล้ว ซาตานจะถูกปล่อยออกจากคุกที่ขังมัน และมันจะออกไปล่อลวงประชาชาติต่างๆ ทั้งสี่ทิศของแผ่นดินโลก คือโกกและมาโกก ให้มาชุมนุมกันเพื่อเข้าสู่สงคราม จำนวนของเขาทั้งหลายเหมือนอย่างเม็ดทรายที่ทะเล และพวกเขายกขบวนออกไปทั่วแผ่นดินโลก และล้อมกองทัพของพวกธรรมิกชน และนครอันเป็นที่รักนั้นไว้ แต่ไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญคนเหล่านั้น ส่วนมารที่ล่อลวงเขาทั้งหลายก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน ที่ซึ่งสัตว์ร้ายและผู้เผยพระวจนะเท็จอยู่นั้น และพวกมันจะถูกทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์ -วิวรณ์ 20:7-10
การไม่สนับสนุนการต่อสู้เป็นกีฬาหรือกิจกรรมอดิเรก
"ชัยชนะ" สุดท้ายของชาวโรม (จาก foxes book of martyrs เป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์คริสเตียนผู้พลีชีพสมัยก่อน)
ชาวโรมันเพิ่งได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือพวกกอส (Goths) และเมื่อนายพลกลับมาที่กรุงโรม มีการเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกเขา ตามปกติแล้ว การเฉลิมฉลองจะมีการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ในโคลอสเซียม
ส่วนแรกของความบันเทิงนองเลือดจบลงแล้ว ร่างของคนตายถูกลากออกไปด้วยตะขอ หลังจากเสร็จสิ้น ประตูก็ถูกเปิดออก และชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งหลายคนก็ออกมาข้างหน้า บางคนถือดาบ บางคนถือตาข่ายและหอกสามง่าม พวกเขาเดินไปรอบ ๆ กำแพง และหยุดต่อหน้าจักรพรรดิ พวกเขาตะโกนว่า "ขอให้ศักดิ์ศรีมีแกซีซาร์ ผู้ที่กำลังจะตายขอคารวะท่าน!
เมื่อกลาดิเอเตอร์ได้ทำให้ศัตรูเจ็บในสังเวียนและยังไม่ตาย เขาจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ฟังแล้วถามว่า ข้าพเจ้าควรไว้ชีวิตหรือฆ่าเขา และถ้าผู้ฟังยกนิ้วโป้ง เขาจะงดเว้น และถ้าถูกลง แล้วเขาจะฆ่าเขา
การแสดงดำเนินต่อไป หลายคนถูกสังหาร และผู้คนต่างตื่นเต้นกับความกล้าหาญของผู้ที่ยังคงต่อสู้ต่อไป แต่ทันใดนั้นก็มีการหยุดชะงัก บุคคลผู้สวมชุดคลุมปรากฏตัวขึ้นชั่วขณะในหมู่ผู้ชม จากนั้นจึงกระโดดลงสู่สนามอย่างกล้าหาญ ก็ดูเป็นคนที่ธรรมดาศีรษะเปล่าและมีใบหน้าที่ซีดเผือด โดยไม่ลังเลเลยในทันที เขาจึงเดินเข้าไปหานักสู้สองคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และวางมือบนหนึ่งในนั้น ตำหนิเขาอย่างรุนแรงที่หลั่งโลหิตผู้บริสุทธิ์ แล้วหันไปทางใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวนับพันที่อยู่รอบตัวเขา เรียกด้วยเสียงที่เคร่งขรึมและเข้มซึ่งดังก้องผ่านส่วนที่ปิดลึก นี่คือคำพูดของเขา: "อย่าตอบแทนพระเมตตาของพระเจ้าในการหันดาบของศัตรูของคุณด้วยการสังหารซึ่งกันและกัน!
ตะโกนและร้องด้วยความโกรธทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงพูดของเขา: "ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเทศนา! -- ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมเก่าของกรุงโรม! กลาดิเอเตอร์จะโจมตีกันและกันอีกครั้ง แต่ชายผู้นั้นยืนอยู่ระหว่างนั้น แยกพวกเขาออกจากกัน และพยายามอย่างไร้ผลที่จะได้ยิน “ปลุกระดม! ปลุกระดม! ลงกับเขา!” ตอนนั้นคือเสียงร้อง และกลาดิเอเตอร์โกรธจัดที่คนนอกเข้ามายุ่งกับอาชีพที่พวกเขาเลือก ทันใดนั้นก็แทงเขาจนตาย
ชุดและการแต่งตัวของเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นนักบวชคริสเตียนคนหนึ่งที่ปฏิญาณตนว่าจะมีชีวิตอันบริสุทธิ์แห่งการอธิษฐานและการปฏิเสธตนเอง และเป็นที่เคารพนับถือของชาวโรมันแต่แต่เขาจะเป็นชนชาติที่ไร้ความคิดและรักการต่อสู้ ไม่กี่คนที่รู้จักเขาบอกว่าเขามาจากป่าแห่งเอเชียเพื่อเยี่ยม โบสถ์และรักษาคริสต์มาสของเขาที่โรม พวกเขารู้ว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ และชื่อของเขาคือเทเลมาคัส วิญญาณของเขาถูกปลุกเวลาเห็นผู้คนนับพันที่แห่กันไปเห็นคนฆ่ากันเอง และด้วยความกระตือรือร้นอันเรียบง่ายของเขา เขาได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาเห็นถึงความโหดร้ายและความชั่วร้ายของพฤติกรรมของพวกเขา เขาตายไปแล้ว แต่ไม่ไร้ประโยชน์ งานของเขาสำเร็จลุล่วงไปในขณะที่เขาถูกโจมตี เนื่องจากความตกใจของความตายก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะหันเหความสนใจของผู้คน พวกเขาเห็นด้านที่น่าสะพรึงกลัวของรองที่พวกเขายอมจำนนโดยสุ่มสี่สุ่มห้า และตั้งแต่วันที่เทเลมาคัสเสียชีวิตในโคลอสเซียม ก็ไม่เคยมีการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ที่นั่นอีกเลย
พระยาห์เวห์ทรงทดสอบทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม และพระองค์ทรงเกลียดชังผู้ที่รักความรุนแรง -สดุดี 11:5
อย่าอิจฉาคนโหดร้าย อย่าเลือกทางใดๆ ของเขาเลย -สุภาษิต 3:31
เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน -เอเฟซัส 6:12
การแก้แค้น
อย่าพูดว่า “ข้าจะแก้แค้นความชั่ว” จงรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงช่วยเจ้า -สุภาษิต 20:22
อย่ากล่าวว่า “ข้าจะทำแก่เขาอย่างที่เขาได้ทำแล้วแก่ข้า ข้าจะทำตอบแทนเขาตามการกระทำของเขา” -สุภาษิต 24:29
“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’ ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย -มัทธิว 5:38-39
พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย เพราะว่าพวกที่ใช้ดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ ท่านคิดว่าเราจะทูลขอพระบิดาของเราไม่ได้หรือ? และพระองค์ก็จะประทานทูตสวรรค์ให้เรามากกว่าสิบสองกองพลในทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อพระคัมภีร์ที่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?” -มัทธิว 26:52-54
ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน นี่แน่ะ ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้ แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงโทษ เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบแทน” -โรม 12:18-19
อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้าม จงอวยพร เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านทำเช่นนั้น เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพร -1 เปโตร 3:9